พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฎิกวรรค [1. ปาฎิกสูตร] เรื่องอิทธิปาฎิหาริย์
มนุษย์มากเท่าใด ๆ ก็ตาม เราจักแสดงให้มากกว่านั้นเป็นทวีคูณ ท่านปาฏิกบุตร
ท่านจงออกไปครึ่งทาง พระสมณโคดมเสด็จมาก่อนคนทั้งปวงทีเดียว ประทับพัก
กลางวันอยู่ที่อารามของท่าน
[22] ภัคควะ บุรุษนั้นรับคำสั่งแล้ว จึงเข้าไปหานักบวชเปลือยปาฏิกบุตร
ที่อารามของตินทุกขาณุปริพาชก แล้วบอกกับนักบวชเปลือยปาฏิกบุตรดังนี้ว่า
ท่านปาฏิกบุตร ท่านจงกลับไปเถิด พวกเจ้าลิจฉวีผู้มีชื่อเสียง พราหมณมหาศาล
คหบดีผู้มั่งคั่ง และสมณพราหมณ์ลัทธิต่าง ๆ ผู้มีชื่อเสียง ต่างพากันออกมาแล้ว
แม้พระสมณโคดมก็ประทับพักกลางวันอยู่ที่อารามของท่าน อนึ่ง ท่านได้พูดอวดไว้
ในบริษัท ในกรุงเวสาลีอย่างนี้ว่า พระสมณโคดมเป็นญาณวาท เราก็เป็นญาณวาท
ด้วย อนึ่ง ผู้เป็นญาณวาทควรแสดงอิทธิปาฏิหาริย์อันเหนือธรรมดาของมนุษย์กับผู้
เป็นญาณวาทด้วยกัน ฯลฯ เราจักแสดงให้มากกว่านั้นเป็นทวีคูณ ท่านปาฏิกบุตร
ท่านจงออกไปครึ่งทาง พระสมณโคดมเสด็จมาก่อนคนทั้งปวงทีเดียว ประทับพัก
กลางวันอยู่ที่อารามของท่าน
ภัคควะ เมื่อบุรุษนั้นกล่าวอย่างนี้ นักบวชเปลือยปาฏิกบุตร จึงกล่าวตอบว่า
เราจะไป ๆ แล้วซบศีรษะอยู่ ณ ที่นั้นเอง ไม่อาจลุกจากที่นั่งได้ ครั้งนั้น บุรุษนั้น
ได้กล่าวกับนักบวชเปลือยปาฏิกบุตรดังนี้ว่า ท่านปาฏิกบุตร ท่านเป็นอะไรเล่า
ตะโพกของท่านติดกับตั่งหรือ หรือว่าตั่งติดกับตะโพกของท่าน ท่านกล่าวว่า เรา
จะไป ๆ แต่กลับซบศีรษะอยู่ ณ ที่นั้นเอง ไม่อาจลุกจากที่นั่งได้ ภัคควะ นักบวช
เปลือยปาฏิกบุตร แม้ถูกบุรุษต่อว่าอยู่อย่างนี้ ก็ยังกล่าวว่า เราจะไป ๆ แล้วก็
ซบศีรษะอยู่ ณ ที่นั้นเอง ไม่อาจลุกจากที่นั่งได้
[23] ภัคควะ เมื่อบุรุษนั้นได้ทราบว่า นักบวชเปลือยปาฏิกบุตรนี้แพ้แล้ว
ก็ยังกล่าวว่า เราจะไป ๆ แล้วก็ซบศีรษะอยู่ ณ ที่นั้นเอง ไม่อาจลุกจากที่นั่งได้
จึงกลับมาหาบริษัทนั้นแล้วบอกอย่างนี้ว่า ท่านผู้เจริญ นักบวชเปลือยปาฏิกบุตรนี้
แพ้แล้ว ก็ยังกล่าวว่า เราจะไป ๆ แล้วก็ซบศีรษะอยู่ ณ ที่นั้นเอง ไม่อาจลุกจาก
ที่นั่งได้